วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

บทบาทพยาบาลห้องผ่าตัด

บทบาทพยาบาลห้องผ่าตัด ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1800 โดยในช่วงแรกเริ่มขึ้นตามความต้องการของศัลยแพทย์ เพื่อให้เป็นผู้ช่วยเหลือแพทย์ในการทำผ่าตัด ต่อมาเมื่อการผ่าตัดได้พัฒนาโดยมีความซับซ้อนมากขึ้น วิธีการผ่าตัดเพิ่มขึ้น ทำให้บทบาทและความรับผิดชอบของพยาบาลห้องผ่าตัดเพิ่มขึ้นด้วย (เรณู อาจสาลี, 2550:2) ปี ค.ศ. 1875 เริ่มมีการบันทึกว่าพยาบาลเป็นผู้เตรียมเครื่องมือสำหรับการผ่าตัด John Hopkins University,Baltimore, U.S.A เป็นสถานที่แห่งแรกที่ให้นักศึกษาพยาบาลศึกษางานการผ่าตัด แต่ยังไม่มีบทบาทและหน้าที่ของพยาบาลในการเตรียมเครื่องมือ และการผ่าตัดเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นซึ่งทำให้เห็นความสำคัญของพยาบาลห้องผ่าตัด แต่ยังไม่ได้กำหนดบทบาทชัดเจน ต่อมา Matha Luce หัวหน้าพยาบาลของ BostonTraining School ได้กำหนดบทบาทของพยาบาลในการมอบหมายงานโดยมีแนวคิดว่าพยาบาลไม่เพียงแต่ดูแลการผ่าตัด แต่ดูแลและคาดการณ์ล่วงหน้าในการจัดเตรียมอุปกรณ์ สิ่งของที่ต้องการให้พร้อมในการผ่าตัด และมีพยาบาลประจำตึกผู้ป่วยมาช่วยงานในห้องผ่าตัด และติดตามดูแลจนกระทั่งผู้ป่วยกลับบ้าน (Fairchild, 1996 อ้างใน วันเพ็ญ เส้นศูนย์, 2544:10)
ปี 1889 พยาบาลห้องผ่าตัดได้ถือว่าเป็นพยาบาลเฉพาะทางกลุ่มแรกในสายวิชาชีพพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย John Hopkins ได้มีการเปิดอบรม และสอนเจ้าหน้าที่ในสายเฉพาะทางห้องผ่าตัด โดยเน้นหลักสูตรไปทางด้านทักษะการเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ การช่วยเหลือศัลยแพทย์ โดยคำนึงถึงผู้ป่วยน้อยมากทำให้พยาบาลห้องผ่าตัดไม่ตระหนักถึงการดูแลผู้ป่วย จำกัดงานของตนเองเฉพาะทักษะของการส่งเครื่องมือในห้องผ่าตัดเท่านั้น ขาดบทบาทสำคัญโดยตรงในการดูแลผู้ป่วย ทำให้ขาดสัมพันธภาพระหว่างผู้ป่วยกับพยาบาล และขาดการติดต่อกับผู้ร่วมวิชาชีพในแผนกอื่นๆในโรงพยาบาล (เรณู อาจสาลี, 2550:2)
Dr.Hunter Robbcs แห่งโรงพยาบาล John Hopkinsได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับทีมสำหรับการทำผ่าตัด คือ การเตรียมดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพ มีการผ่าตัดโดยให้พยาบาลประจำการที่มีประสบการณ์มีบทบาทเป็นพยาบาลส่งเครื่องมือ ส่วนพยาบาลสำเร็จการศึกษาใหม่เป็นผู้ช่วยดูแลอุปกรณ์ ในปี ค.ศ. 1910 American Nurses Association (ANA) ได้เขียนหน้าที่ของพยาบาลช่วยเหลือรอบนอกเป็นพยาบาลที่มีประสบการณ์มาก และมีเทคนิคปราศจากเชื้อ ส่วนพยาบาลส่งเครื่องมือเป็นพยาบาลสำเร็จการศึกษาใหม่ไม่ต้องมีประสบการณ์ทางการพยาบาลก็ได้ ซึ่งในปัจจุบันบทบาทพยาบาลช่วยรอบนอกถูกมอบหมายให้พยาบาลวิชาชีพและหน้าที่ส่งเครื่องมือเป็นหน้าที่ของพยาบาลวิชาชีพหรือนักเทคนิคในปี ค.ศ. 1919 มีการประชุมหลักสูตรเกี่ยวกับห้องผ่าตัด โดยมีผู้ตรวจการพยาบาลในห้องผ่าตัดเป็นผู้ดูแลต่อมา The National League for nursing (NLN) ได้วางหลักสูตรสำหรับความก้าวหน้าในทฤษฎีและเทคนิคในห้องผ่าตัดเป็นไปแบบสำหรับฝึกในวิชาการพยาบาลห้องผ่าตัด ในช่วงปีค.ศ. 1940 ถึง ค.ศ. 1945 บทบาทพยาบาลห้องผ่าตัตเริ่มชัดเจนขึ้นในบทบาทด้านการเป็นผู้นำ บทบาทครู และพยาบาลมืออาชีพที่รับผิดชอบการปฏิบัติการพยาบาลห้องผ่าตัด พยาบาลห้องผ่าตัดไม่เพียงแต่ดูแลผู้ป่วยระหว่างปฏิบัติการพยาบาลห้องผ่าตัด แต่เริ่มบทบาทในการบริหารจัดการในห้องผ่าตัด ขณะที่บทบาทพยาบาลส่งเครื่องมือถูกส่งต่อให้กับนักเทคนิค ต่อมาปี ค.ศ. 1946 ถึง ค.ศ. 1960 พยาบาลมีบทบาททั้งเป็นนักวิชาชีพ และนักวิชาการ ซึ่งนักเทคนิคทำหน้าที่เป็นผู่ส่งเครื่องมือภายใต้การนิเทศจากพยาบาล ผู้ตรวจการ NLN เริ่มมีบทบาทลดลง หลักสูตรนักศึกษาพยาบาลมีเพียงการสังเกตการณ์ และมีระยะเวลาที่ฝึกลดลงด้วย ต่อมาพยาบาลห้องผ่าตัดได้สร้างองค์กรที่มีรูปแบบของความรู้ และมีแนวคิด จึงมีพยาบาลระดับผู้ตรวจการใน New York จำนวน 17 คน รวมกันจัดตั้งสมาคมพยาบาลห้องผ่าตัด (Association of Operating Room Nurse: AORN) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ จูงใจให้พยาบาลที่มีประสบการณ์ได้สอนผู้ที่เริ่มฝึกหัดใหม่ และส่งเสริมสนับสนุนให้พยาบาลอยู่ในระดับที่มีความชำนาญเฉพาะทาง ต่อมา American Nurse Association (ANA) เมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนทำให้ AORN ได้ก่อตั้งขื้นในปี ค.ศ. 1959 เริ่มให้การพยาบาลห้องผ่าตัดเป็นการดูแลโดยเอาผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางมากกว่ามุ่งเน้นที่การปฏิบัติงานกับเครื่องมือ และต้องการสร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน ค.ศ. 1976 เริ่มมีการให้ความหมายเกี่ยวกับ “บทบาท” ต่อมาอีก 2 ปี “perioperative” เป็นคำที่ใชอธิบายบทบาท และหน้าที่เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในการเป็นวิชาชีพของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วย 3 ระยะ คือ ก่อนผ่าตัด ขณะผ่าตัด และหลังผ่าตัด (Fairchild, 1996 อ้างใน วันเพ็ญ เส้นศูนย์, 2544:10-11) ในปี ค.ศ.1978 สมาคมพยาบาลห้องผ่าตัดนานาชาติ (The Association of Perioperating Registered Nurses : AORN) ได้ใช้คำ Perioperative Nursing แทนคำว่า Operating Room Nursing เพื่อขยายบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของพยาบาลผ่าตัดในการดูแลผู้ป่วยที่มารับบริการโดยมีมาตรฐานการปฏิบัติ 6 มาตรฐาน คือ
มาตรฐานที่ 1 การประเมินผู้ป่วย
มาตรฐานที่ 2 การวินิจฉัยการพยาบาล
มาตรฐานที่ 3 การระบุผลลัพธ์
มาตรฐานที่ 4 การวางแผนการพยาบาล
มาตรฐานที่ 5 การปฏิบัติการพยาบาล
มาตรฐานที่ 6 การประเมินผลการปฏิบัติการพยาบาล
โดยครอบคลุมทั้ง 3 ระยะการผ่าตัด ซึ่งเป็นการขยายบทบาทของพยาบาลห้องผ่าตัดให้ทำหน้าที่เป็นพยาบาลวิชาชีพอย่างสมบูรณ์ ให้การดูแลผู้ป่วยโดย “ ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ” ครอบคลุมทั้งร่างกาย และจิตใจ ตั้งแต่รับผู้ป่วยมาจากหอผู้ป่วย โดยมีการวางแผนการพยาบาล การปฏิบัติการพยาบาล ประเมินผลทางการพยาบาลปรับปรุงแผนการพยาบาล เพื่อให้การพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะรายให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น (เรณู อาจสาลี, 2550:3) ในปีค.ศ.1982 เริ่มมีการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติการพยาบาลผ่าตัดเฉพาะทาง ถึงแม้ได้มีการเปลี่ยนแปลงบทบาทในด้านวิชาชีพพยาบาลแล้ว คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะในสายวิชาชีพเดียวกัน ยังคงมีทัศนคติต่อพยาบาล ห้องผ่าตัดว่า เป็นพยาบาลทำงานกับอุปกรณ์ เครื่องมือเท่านั้น ซึ่งงานเหล่านี้นับเป็นงานส่วนหนึ่งของพยาบาลห้องผ่าตัดในระหว่างผ่าตัดเท่านั้น แต่ AORN ได้พยายามปกป้องบทบาทของพยาบาลห้องผ่าตัด จนกระทั่งได้มีการฝึกอบรม OR Technician ซึ่งไม่ได้เป็นพยาบาลทดแทนบทบาทพยาบาลห้องผ่าตัด ในหน้าที่ส่งเครื่องมือ (Fairchild, 1996 อ้างใน วันเพ็ญ เส้นศูนย์, 2544:11)
ด้วยความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางวิชาการ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการบริการด้านสุขภาพ การพัฒนาระบบการพัฒนาบุคลากร การปรับเปลี่ยนพัฒนางานให้มีคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการของสังคม บุคลากรทางการพยาบาลห้องผ่าตัด ซึ่งให้การดูแลผู้ป่วยที่มารับการรักษาหรือรับการวินิจฉัยด้วยการผ่าตัด ต้องศึกษาหาความรู้ที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกับทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ Garvey, Chabers and Boore (2000) กล่าวว่า บทบาทของพยาบาลวิชาชีพห้องผ่าตัดต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เจริญมากขึ้นด้วย ดังนั้นพยาบาลห้องผ่าตัดจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงบทบาทให้เหมาะสมเพื่อพัฒนาการปฏิบัติการพยาบาลผ่าตัดที่ทันสมัยตามเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางวิชากร เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ป่วยคืนสู่ภาวะสุขภาพปกติโดยเร็ว และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน
นอกจากนี้ในปัจจุบันผู้มารับบริการมีความรู้และระดับการศึกษาที่สูงขึ้นและมีความคาดหวังที่จะได้รับบริการที่ได้มาตรฐานและมีคุณธรรมสูงขึ้น ได้รับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยและศักดิ์ศรีความเป็นปัจเจกบุคคลมากขึ้น ความคาดหวังต่อการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลการพยาบาลห้องผ่าตัดนับเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการพยาบาลด้านสุขภาพที่มีผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลง (เบญจมาศ ปรีชาคุณ, 2544) ดังนั้นพยาบาลห้องผ่าตัดจึงมีหน้าที่วางแผนในการดูแลผู้ป่วยที่มารับการผ่าตัดให้ปลอดภัยตลอดระยะเวลาที่ผู้ป่วยมารับบริการที่ห้องผ่าตัด บทบาทการให้การพยาบาลผู้ป่วยทุกขั้นตอนควรมีการปรับเปลี่ยน และพัฒนาบทบาทการให้การพยาบาลผู้ป่วยทุกระยะภายในห้องผ่าตัดให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด สมกับเป็นพยาบาลวิชาชีพ Professional nurse (เรณู อาจสาลี, 2542:38) งานของพยาบาลห้องผ่าตัดเป็นงานที่ผสมผสานระหว่างการดูแลผู้มารับบริการตลอดระยะเวลาของการผ่าตัด โดยนำกระบวนการพยาบาลมาใช้ให้ครอบคลุมทั้งด้านการดูแลรักษา ป้องกัน ส่งเสริม และฟื้นฟูแล้วยังต้องมีความชำนาญเฉพาะทางในเรื่องวิธีการทำผ่าตัด (Procedure) และเทคนิคต่างๆ ตลอดจนใช้ทักษะการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ใช้เพื่อการผ่าตัด โดยมีองค์ความรู้เป็นพื้นฐาน (Knowledge based professional) ใช้กระบวนการแก้ปัญหาด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์โดยให้การพยาบาลที่ถือหลักว่ามนุษย์เป็นองค์รวมที่มีบูรณาการของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม วิญญาณ และสิ่งแวดล้อม ทำให้บุคลากรทางการพยาบาลห้องผ่าตัดทุกคนจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจทางการศึกษา การปฏิบัติ การบริหาร และการวิจัย ทั้งนี้เนื่องจากการพยาบาลห้องผ่าตัดเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของชีวิตมนุษย์ (ทัศนา บุญทอง, 2540:ช) จะต้องมีการปรับเปลี่ยนบทบาทของตนเอง เพื่อให้ตอบสนองต่อสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา รวมถึงความคาดหวังของสังคมที่มีต่อวิชาชีพนี้ได้เพิ่มมากขึ้น ในการที่จะดูแลผู้ป่วย ที่เข้ารับการผ่าตัด ซึ่งจะมีความแตกต่างไปจากอดีต
Furlow , Huglan (1994) ได้กล่าวไว้ว่า พยาบาลห้องผ่าตัดปฏิบัติงานที่เน้นความรู้ ความสามารถ และความชำนาญทางเทคนิคมากกว่าการปฏิบัติที่เน้นการพยาบาลและการดูแลตามปัญหา และความต้องการของผู้ป่วย ซึ่งเป็นลักษณะที่แตกต่างจากพยาบาลประจำการหอผู้ป่วย พยาบาลห้องผ่าตัดจะต้องใช้องค์ความรู้ ที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ รวมทั้งทักษะและประสบการณ์ ในการตัดสินใจให้การพยาบาลผู้ป่วยที่มารับบริการผ่าตัดตามมาตรฐานการพยาบาลผ่าตัด การพยาบาลห้องผ่าตัดนับเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการพยาบาลด้านสุขภาพ ดังนั้นพยาบาลห้องผ่าตัดจึงมีหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยที่มารับการผ่าตัดให้ปลอดภัยตลอดระยะเวลาที่ผู้ป่วยมารับบริการที่ห้องผ่าตัด และดูแลห้องผ่าตัดให้สะอาด มีความพร้อมที่จะผ่าตัดได้ตลอดเวลา อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้จะต้องอยู่ในสภาพที่ดี สามารถใช้งานได้และมีจำนวนเพียงพอที่จะทำผ่าตัดได้ทั้งในเวลาปกติและฉุกเฉิน สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ประจำของพยาบาลห้องผ่าตัด นอกจากนี้ยังปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ส่งเครื่องมือ ผู้ช่วยผ่าตัด ผู้ช่วยเหลือทีมผ่าตัด เพื่อให้การผ่าตัดดำเนินไปอย่างราบรื่นตลอดระยะเวลาผ่าตัด และให้การพยาบาลได้อย่างต่อเนื่อง บทบาทการให้การพยาบาลผู้ป่วยทุกขั้นตอน ควรมีการปรับและขยายบทบาทการให้การพยาบาลผู้ป่วยทุกระยะภายในห้องผ่าตัดให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด สมกับเป็นพยาบาลวิชาชีพ Professional nurse (เรณู อาจสาลี, 2542:38)
รูปแบบของพยาบาลห้องผ่าตัดในยุคใหม่ควรเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการพยาบาล Webster and Cowar (1990) และ Furlow and Huglan (1994) ได้กล่าวว่าบทบาทหน้าที่ของพยาบาลที่ปฏิบัติงานในห้องผ่าตัดไม่เป็นที่รู้จักของผู้บริหารทางการพยาบาล เมื่อมีปัญหาจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เพราะไม่เข้าใจการปฏิบัติงานของพยาบาลห้องผ่าตัด ซึ่งสอดคล้องกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากการปฏิบัติงานยังไม่มีการกำหนดบทบาทและหน้าที่อย่างชัดเจน จะเข้าใจว่าเป็นการทำงานโดยใช้ทักษะด้านการชำนาญทางเทคนิคเท่านั้นซึ่งสอดคล้องกับ สุภาพ เอื้ออารี (2541) ที่กล่าวว่า เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีพยาบาลมุ่งเน้นความชำนาญทางด้านความรู้ และทักษะหรือบางครั้งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ผ่าตัด ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานแทนวิชาชีพอื่น มุ่งเน้นความสำเร็จของงานเป็นหลัก ทำให้ขาดความชำนาญในเชิงวิชาชีพของตน เพราะต้องกระทำหน้าที่แทนบุคลากรวิชาชีพอื่นที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นพยาบาลห้องผ่าตัดจึงควรมีการทบทวนบทบาทเพื่อพัฒนาศักยภาพของการปฏิบัติให้เป็นวิชาชีพอย่างแท้จริงโดยมีองค์ความรู้พื้นฐาน (Knowledge based professional) ใช้กระบวนการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์โดยให้การพยาบาลที่ถือหลักว่ามนุษย์เป็นองค์รวมที่มีบูรณการของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม จิตวิญญาณ และสิ่งแวดล้อมการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่พยาบาลห้องผ่าตัดจะต้องเผชิญและปรับเปลี่ยนบทบาทในการให้บริการพยาบาลให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากการพยาบาลห้องผ่าตัดเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพและความปลอดภัยของชีวิตมนุษย์ (ทัศนา บุญทอง.2540:ช) อีกทั้งการที่ประชาชนมีความคาดหวังในคุณภาพการบริการ และต้องการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้น พยาบาลห้องผ่าตัดในยุคปัจจุบันจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนบทบาทและการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม

1 ความคิดเห็น: